ปุ๋ยมูลค้างคาว ตรา เขาเพชร สูตร 6-3-3
คุณสมบัติ
-มูลค้างคาวที่สะสมกันในถ้ำเป็นเวลานานจนสลายตัวกลายเป็นปุ๋ย ให้ธาตุทั้งในโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ทำให้มีปริมาณความแข้มข้นของธาตุอาหารพืชสูงทัดเทียมกับปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์
-ผลของการใช้ปุ๋ยมูลค้างคาว ทำให้ดินร่วนไม่เกาะกันแน่น เมื่อแข็งตัว ความเป็นกรด-ด่างของดินอยู่ในระดับที่พอเหมาะกับความเจริญเติบโตของพืช
-การใช้มูลค้างคาว ทำให้เชื้อแบคทีเรียในดินทำการย่อยสลายอินทรีย์สารเปลี่ยนเป็นธาตุอาหารพืชได้ง่ายขึ้น
-มูลค้างคาวให้ธาตุอาหารเสริมของพืช ได้แก่ แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก แมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบรอน และโมลิบดินัม อย่างพอเพียงกับความต้องการของพืช
-การใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวอย่างสม่ำเสมอติดต่อกันจะทำให้ผลตกค้างของปุ๋ย เคมีในดินค่อยๆสลายเป็นอาหารพืช และดินกลับสมบูรณ์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
-ในมูลค้างคาวมีธาตุอาหารฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ จึงเหมาะสมกับการนำมาใช้ทั้งใน พืชผัก พืชสวน พืชไร่ และไม้ดอก ไม้ประดับ จะช่วยเพิ่มในเรื่องของ สีสัน รสชาติ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างดี
มูลค้างคาวพันธุ์ที่กินแมลงเป็นอาหาร(แร่ธาตุครบ)
ธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม )
ธาตุอาหารรอง (แคลเซี่ยม แมกนีเซียม กำมะถัน )
ธาตุอาหารเสริม (เหล็ก ซิลิคอน สังกะสี โบรอน โมลิบดินัม )
กรดฮิวมิก จุิลินทรีย์ ชนิดทนความร้อน(นำเข้าจากประเทศอิสราเอล) ถูกแดดโดยไม่เสื่อมสภาพและมีส่วนผสมอื่นๆอีก(ขอรายละเอียดได้)
ผลการเปรียบเทียบมูลสัตว์ต่างๆกับมูลค้างคาว
มูลค้างคาวมีไนโตรเจน (N) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆประมาณ 20 เท่า
มูลค้างคาวมีฟอสฟอรัส (P) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 130 เท่า
มูลค้างคาวมีโพเทสเซียม (K) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 4 เท่า
หมายเหตุ
ไนโตรเจน (N) ช่วยให้พืชเจริญเติบโตดี ลำต้นและใบแข็งแรง
ฟอสฟอรัส (P) ช่วยให้พืชแข็งแรงทั้งส่วนราก ลำต้น ใบ ออกดอก ออกผล
โพแทสเซียม (K) ทำให้ผนังเซลล์ของพืชหนาขึ้น
ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตปุ๋ย
1 วัตถุดิบมูลค้างคาว
มูลค้างคาวจำนวนมหาศาลที่บริษัทฯได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาวนั้น สามารถนำมาผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมาย อุดมไปด้วยธาตุอาหารครบตามที่พืชต้องการ และพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
2 สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯได้นำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเท่าทวีคูณ เพราะสารอาหารดังกล่าวมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม รวมทั้งฮิวมัส ฮิวมิค อะมิโน สารอาหารชนิดนี้เป็นเคมีธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหารของประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลไม่ได้ตีค่าเป็นเคมี แต่ด้วยคุณค่านั้นเหนือกว่าเคมีนำเข้าโดยทั่วไป การปลดปล่อยต่างกัน ให้คุณค่าที่สูงกว่า พืชจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
3 จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษนำเข้าจากประเทศอิสราเอล
เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยของทางบริษัทฯ จุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สามารถทำลายเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า โคนเน่า ในพืชทุกชนิด ช่วยพัฒนาระบบราก ปรับสภาพดินที่เสียให้ร่วนซุย ปรับค่า PH ของดินให้เหมาะสม
อัตราและวิธีการใช้
ชนิดพืช : นาข้าว
ระยะที่ใช้ : ระยะแรก 15 – 30 วัน อัตราการใช้ : 40 – 80 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง
ระยะที่ใช้ : ระยะแรก 50 – 60 วัน อัตราการใช้ : 40 – 80 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง
ชนิดพืช : ข้าวโพด
ระยะที่ใช้ : ระยะพร้อมปลูก อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยรองก้นหลุมพร้อมปลูก
ระยะที่ใช้ : ระยะแรก 20 – 25 วัน อัตราการใช้ : 30 – 40 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยตามแนวข้าวโพด
ชนิดพืช : ส้ม มะนาว มะม่วง เงาะ ทุเรียน มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ ลองกอง ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น ปาล์ม
ระยะที่ใช้ : มีผลแล้ว อัตราการใช้ : 3 – 5 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : หว่านรอบทรงพุ่ม
ระยะที่ใช้ : ยังไม่มีผล อัตราการใช้ : 2 – 3 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : หว่านรอบทรงพุ่ม
ชนิดพืช : ยางพารา
ระยะที่ใช้ : กรีดแล้วต้น , ปลายฝน อัตราการใช้ : 1 – 2 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : โรยขนานแถว
ระยะที่ใช้ : ยางเล็ก ต้น, ปลายฝน อัตราการใช้ : 0.5 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้ : โรยขนานแถว
ชนิดพืช : อ้อย มัน สับปะรด
ระยะที่ใช้ : ใช้รองพื้นก่อนปลูก อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยในร่องแล้วกลบ
ระยะที่ใช้ : พืชอายุ 1 – 2 เดือน อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : โรยข้างแถว
ชนิดพืช : พริก หอม กระเทียม แตง ถั่ว สตอเบอรี่
ระยะที่ใช้ : ใช้รองพื้นระยะให้ผล อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง
ชนิดพืช : ผักทุกชนิด ยาสูบ
ระยะที่ใช้ : ใช้รองพื้น อัตราการใช้ : 50 – 100 กก.ต่อไร่ วิธีการใช้ : หว่านทั่วแปลง
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในนาข้าว 1,500 กก.ต่อไร่
|
สรุปผลจากการใช้ในนาข้าว
|